ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

"สร้างแรงจูงใจ" กับกิจกรรมการบริหารทรัพยากรมนุษย์


                หลายคนคงเคยสงสัยว่ากิจกรรมการบริหารทรัพยากรมนุษย์มีส่วนในการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานในองค์การได้อย่างไร ซึ่งหลากหลายกิจกรรมนำมาซึ่ง "กระบวนการบริหารทรัพยากร" ที่เกิดขึ้นภายในองค์กรที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน อันได้แก่

                การรับสมัครและคัดเลือก คือ การกำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกพนักงาน คือ การิจารณาว่าคนเหมาะสมกับงานหรือตำแหน่งหน้าที่ที่ทำหรือไม่ การพิจารณาว่าคนเหมาะสมกับองค์การกหรือไม่ เช่น องค์การนี้สภาพแวดล้อมภายในองค์การมีความกดดัน การทำงานเร่งรีบ ใช้ทักษะและความรวดเร็วในการทำงาน จึงจำเป็นที่จะต้องคัดเลือกพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงาน การพิจารณาตามสมรรถนะที่องค์การกำหนดขึ้น เช่น องค์การนี้ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถพิเศษในด้านภาษา ก็ย่อมต้องการพนักงานที่สามารถพูดภาษาได้คล่องแคล่ว

                ผลการปฎิบัติงาน คือ เมื่อพนักงานเริ่มปฎิบัติงานแล้ว องค์การจะมีการเก็บรวบรวมผลการปฎิบัติงาน สังเกตและทำงานประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงาน เช่น งานที่ต้องนับจำนวนชิ้นงานในการผลิต และควบคุมระยะเวลาในการผลิต ผลการปฎิบัติงานก็จะดูว่าพนักงานสามารผลิตได้ 1 วัน กี่ชิ้น เป็นเวลาเท่าไร

                การประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงาน คือ การกำหนดเกณฑ์ในการประเมินการทำงานพนักงาน โดยการพิจารณา 1) บุคลิกภาพ พฤติกรรม และผลลัพธ์ 2) การพิจารณาข้อตกลงการทำงานที่ตกลงกันระหว่างหัวหน้าสายงานกับพนักงาน ว่าการทำงานนั้นเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้หรือไม่ 3) พิจารณาตามสมรรถนะที่องค์การกำหนดขึ้น เช่น องค์การกำหนดว่าพนักงานต้องมีขอบเขตและความรับผิดชอบในการทำงานเท่านี้ พนักงานสามรถปฎิติได้มากน้อยเท่าใด นอกจากเกณฑ์การประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงานแล้วยังมีเทคนิคในการประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงาน เช่น 360 องศา ซึ่งจะนำมาใช้ในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

                รางวัล คือ แรงสูงใจในการปฎิบัติงานของพนักงาน เมื่อพิจารณาผลการปฎิบัติงานและประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงานแล้ว ก่อนการให้รางวัลต้องมีการประเมินค่าของงาน คือ Know-How ความสามารถและทักษะของพนักงาน Problem Solving สามารถนำทักษะมาปะยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ Accountability ความรับผิดชอบต่องานที่ทำ ผู้บริหารต้องมีการสร้างแรงจูงใจในการทำงานโดยการให้รางวัลที่เหมาะสมกับงาน และเหมาะสมกับคน ทั้งรางวัลที่เป็นตัวเงินและรางวัลที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การขึ้นเงินเดือน (Broad banding) กรจัดสรร การให้รางวัลตามสมรรถนะ (Competency Base Pay) การจัดหาสวัสดิการ (Cafeteria) 

                การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือ การพัฒนาพนักงานทั้ง 4 ด้าน 1) การพัฒนาปัจเจคบุคคล เช่น การฝึกอบรมการพัฒนาบุคลิกภาพให้กับพนักงาน 2) การพัฒนาอาชีพ เช่น การฝึกอบรมเกี่ยวกับงานที่ปฎิบัติอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มความสามรถ หรือการฝึกอบรมเกี่ยวกับสายอาชีพเสริมให้กับพนักงาน 3) การพัฒนาองค์การ เช่น การบรรยายความก้าวหน้าขององค์การ การแจ้งเวียนผลการดำเนินงาน 5) การพัฒนาผลการปฎิบัติงาน เช่น การอบรมพนักงานในการปฎิบัติงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง



               ดังนั้น กิจกรรมการบริหารทรัพยากรมนุษย์มีส่วนในการสร้างแรงจูงใจในการให้กับพนักงาน เพราะ องค์การมีการพิจารณาผลการปฎิบัติงาน และประเมินผลการปฎิบัติงานของพนักงาน เพื่อพิจารณาการให้รางวัล ทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ ตลอดจนการพัฒนาพนักงานเพื่อให้มีความรู้ความสามารถเพื่อมมากขึ้น เช่น พนักงานกลุ่มมืออาชีพ จะให้งานที่ท้าทาย อำนวยความสะดวกในการทำงานให้ พนักงานกลุ่มชั่วคราว จะเพิ่มแรงจูงในในเรื่องค่าตอบแทน การเปิดโอกาสให้บรรจุเป็นพนักงาน พนักงานกลุ่ม Low skill จะเพิ่มแรงจูงใจโดยการตระหนักเห็นคุณค่า ให้ความสำคัญกับพนักงานระดับนี้ว่ามีความสำคัญต่อองค์การ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"การควบคุม (Controlling)" กับการประยุกต์ใช้ Feed forward control, control concurrent control, Feedback control ในการทำงาน

                "การควบคุม ( Controlling )" การควบคุมและประเมินผล ประกอบด้วย การควบคุม การจัดนวัตกรรม และการเปผลี่ยนแปลง เป็นการประเมินการควบคุมให้ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้ 4 ด้าน คือ ด้านการเงิน ด้านลูกค้า ด้านกระบวนการภายใน ด้านการเรียนรู้และการพัฒนา                 การควบคุมมีความสำคัญอย่างไร?                            การควบคุมจะทำให้กระบวนการทำงานอยู่ในช่วงเวลาการควบคุมที่กำหนดไว้ โดยมีการนำกระบวนการควบคุม 4 ขั้นตอน คือ 1) ตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัด เป็นการสร้างข้อตกลงเบื้องต้นและเป้าหมายในการปฎิบัติงาน 2) วัดผลทำงานจริง โดยข้อมูลการปฎิบัติงานจริงดูได้จากสังเกตุ รายงานข้อมูลทางสถิติ รายงานด้วยวาจา รายงานสรุป 3) เปรียบเทียบผลการปฎิบัติงานจริงกับเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ 4) ทบทวนผลการปฎิบัติงาน เป็นการทบทวนผ...

Corporate Governance และ Social Responsibility มีความสำคัญอย่างไร

Corporate Governance (บรรษัทภิบาล) หมายถึง กระบวนการ กิจกรรม หรือ กลไกที่องค์กรหรือบริษัท กระทำเพื่อให้เกิดการจัดการที่ดีในองค์กรหรือ เรียกว่า ธรรมาภิบาล ( Good Corporate Governance)   ดังนั้น Corporate Governance จึงเป็นระบบที่จัดให้มีกระบวนการ โครงสร้าง และการควบคุมกิจการให้มีความรับผิดชอบตามหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สามารถสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อรักษาเงินลงทุนและเพิ่มคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว ภายใต้กรอบของการมีจริยธรรมที่ดี โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ( Stakeholder) ได้แก่ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า พนักงาน และสังคมโดยรวม ดังมีลักษณะที่สำคัญ คือ -                   - การบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ -                   - การตรวจสอบและอธิบายได้ -                   - ความโปร่งใส - ...

แบบ Chain network หรือแบบ All control องค์กรควรออกแบบการสื่อสารอย่างไร

                 การที่องค์การควรที่จะออกแบบการสื่อสารอย่างไรขึ้นอยู่กับ กลยุทธ์ ขนาดขององค์การ เทคโนโลยี และสภาพแวดล้องภายนอก                 องค์การใช้กลยุทธ์ Differentiation เน้นการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ โครงสร้างขององค์การเป็นแบบ Organic โดยพิจารณาโครงสร้างแนวดิ่งพบว่า สิทธิอำนาจในการสั่งการยาว กฎกณฑ์ในการทำงานยาก เป็นทางการ Narrow span control หัวหน้า 1 คน มีลูกน้องจำนวนน้อย ควบคุมการทำงานของพนักงานได้ เป็นโครงสร้างแบบรวมอำนาจ พิจารณาโครงสร้างแนวนอนพบว่า การสื่อสารแบบสายการบังคับบัญชา มีการมอบหมายงานตามความเชี่ยวชาญ เหมาะสำหรับองค์การที่มีขนาดเล็ก ใช้เทคโนโลยีแบบ small Batch technology โดยการผลิตครั้งละน้อยๆ สภาพแวดล้อมภายนอก สลับซับซ้อนไม่คงที่ การสื่อสารขององค์การควรเป็นแบบ Chain network เพราะ ง่ายต่อการควบคุม ไม่จำเป็นต้องเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากพนักงานมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ...